เรื่องย่อ:
พลเอกสุดเขต รัตนชาติพัลลภ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) พบว่าเด็กหญิงขายหนังสือพิมพ์ ณ สี่แยกแห่งหนึ่ง ที่มาเป็นลมล้มอยู่ข้างรถ คือหลานสาวที่เกิดจาก สุดจิต ลูกสาวของ สมใจ (ปวีณา ชารีฟสกุล) เมียคนใช้ของตนที่หนีออกจากบ้านไปเมื่อกว่า 30 ปีมาแล้ว สุดเขตสงสารหลานสาวต้องการจะเอาหลานมาเลี้ยงแต่สมใจไม่ยอม ทว่าตั้งปณิธานว่า "ต้องเอาตัวดอกโศกมาให้ได้ สายเลือด รัตนชาติพัลลภต้องไม่ไปตกตมอยู่ในน้ำครำอย่างนั้น" ท่านจึงให้ เพ็ญพักตร์ (เมทินี กิ่งโพยม) ลูกสาวคนโตไปซื้อตัว ดอกโศก (เด็กหญิงแอนนา) จาก สมหวัง (กลศ อัทธเสรี) สามีใหม่ผู้เห็นแก่เงินของสมใจ สุดเขตเปลี่ยนชื่อหลานสาวจากดอกโศกเป็นอภิรมย์ฤดี การมาอยู่ในตึกใหญ่ของสกุลเก่าแก่ไม่ทำให้ดอกโศกสุขสบาย ทั้งบ้านมีแต่คนเกลียดชังเธอ นับตั้งแต่เพ็ญพักตร์และ อุ๊ หรือ เพ็ญตระการ (แอริน ยุกตะทัต) ลูกสาว สุดสวย (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) ลูกสาวคนเล็กของคุณตา ช่วงแรกดอกโศกไม่ยอมและตอบโต้ด้วยวิธีการของเด็กที่เติบโตมาอย่างปากกัดตีน ถีบ ผลมักลงเอยด้วยความเจ็บตัวเสมอ โดยเฉพาะสุดสวย ที่มีนิสัยผิดปกติ ซึ่งมักตกเป็นเครื่องมือแกล้งดอกโสกของเพ็ญตระการ 10 ปีผ่านไป ดอกโศก (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) โตขึ้นพร้อมกับความตระหนักว่าต้องอดทน สงบเสงี่ยมเจียมตนและต้องเอาความดีชนะความโกรธเกลียดทั้งปวง เธอจึงอยู่ได้อย่างมีความสุข ย้อนไปเมื่อตอนดอกโศกยังขายหนังสือพิมพ์ที่สี่แยก เด็กหญิงได้พบ อัศนัย (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ชายหนุ่มใจดีที่ซื้อหนังสือพิมพ์เป็นประจำ อัศนัยรู้สึกผูกพันกับดอกโศกอย่างประหลาดและบังเอิญเหลือเกินที่อัศนัยเป็น หุ้นส่วนทางธุรกิจกับ ตระกูล (เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) สามีของ เพ็ญพักตร์ เขาจึงมีโอกาสติดตามชีวิตของดอกโศกด้วยความเมตตาจริงใจ คอยปลอบโยนให้กำลังใจและช่วยเหลือดอกโศกจนโตเป็นสาวรุ่น ดอกโศกจึงบูชาอัศนัย ความผูกพันซึ่งกันและกันถูกถักทอจนกลายเป็นความรักอย่างลึกซึ้ง แต่ความรักนี้ต้องซ่อนเร้นเพราะเพ็ญตระการก็หลงรักอัศนัยอยู่เช่นกัน อยู่มาวันหนึ่งอัศนัยต้องประหลาดใจเมื่อพบ ปรียากมล (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) แม่ม่ายสาวสวยที่หวนกลับมาเพื่อรื้อฟื้นความรักความหลังที่มีต่อกันเมื่อ ครั้งเป็นวัยรุ่น ปรียากมลรุกอัศนัยตลอดเวลาด้วยชั้นเชิงของผู้หญิงที่เจนจัดในสนามรัก จนอัศนัยเกือบจะเผลอกายไปหลายครั้ง และเธอยังทราบอีกว่าบัดนี้มีผู้หญิงที่เป็นศัตรูหัวใจถึงสองคน คือดอกโศกและเพ็ญตระการ เธอจึงตั้งใจว่าจะสู้จนสุดชีวิต เพื่อไม่ให้สูญเสียอัศนัยไป