เรื่องย่อ:
าพยนตร์เรื่องเยี่ยมอีกเรื่องที่สะท้อนภาพของการเมืองไทย ที่ชาวบ้านยังขาดความเข้าใจในสิทธิของตน และผลประโยชน์มหาศาลและการคอรัปชั่นของข้าราชการ แถมด้วยกลวิธีต่างๆนานาที่ ผู้สมัครแต่ละคนงัดมาใช้ ที่แม้แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่ล้าสมัย ดำเนินเรื่องผ่านทนายคนจน (สรพงศ์ ชาตรี) ที่อาสามาเป็นตัวแทนของพี่น้อง เพื่อจัดสรรความเป็นธรรมในสังคม ขจัดอิทธิพลซึ่งแน่นอนย่อมขัดผลประ โยชน์ฐานอำนาจเดิม ยิ่งคะแนนนิยมเพิ่มมากเท่าใด อันตรายก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น จุดขายของหนังอย่างหนึ่งก็คือ การเข้าไปถ่ายทำในบ้านซอยสวนพลูของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และเชิญเข้าร่วมฉากกับ นายบุญชู โรจนเสถียร พร้อมกับสมาชิกพรรคกิจสังคมจริงๆ ในสมัยนั้น โดยเป็นฉากเปิดตัวพระเอกของเรื่องคือ สรพงศ์ ชาตรี ที่จะลงสมัครผู้แทนในนามพรรคเราทำได้ หนังจะสมมุติเพียงชื่อคน ชื่อสถานที่ โดยเริ่มเรื่องในจังหวัดสนธยาธานี ซึ่งอยู่ติดชายแดนทางภาคอีสาน จังหวัดนี้มีผู้แทนราษฎรได้เพียงคนเดียว ซึ่งทุกครั้งก็จะถูกผูกขาดโดยรัฐมนตรีช่วยอำนาจ ผู้แทนเก่า แต่ครั้งนี้กลับมีผู้สมัครหน้าใหม่หลายคนมาลงเลือกตั้ง หนึ่งในนั้นก็มีทนายบุญไชย (สรพงษ์) รวมอยู่ด้วย ผู้สมัครบางคนก็เอาแต่ด่าคู่แข่งลูกเดียว บางคนก็โยนระเบิดใส่บ้านตัวเองเพื่อเรียกคะแนนสงสาร บางคนก็แจกข้าวแจกของให้แก่ชาวบ้านเป็นการมัดจำไว้ก่อน เช่น แจกรองเท้าแตะฟองน้ำให้ข้างเดียวก่อน ถ้าได้เป็นผู้แทนก็จะมาแจกเพิ่มอีกข้างหนึ่ง แต่สำหรับทนายบุญไชยแล้ว เขาใช้วิธีเดินเข้าถึงประชาชน พูดถึงนโยบายของพรรคที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน จึงมีพันธมิตรช่วยหาเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ต้องปราศรัยแข่งกับการฉายหนังกลางแปลง แต่ทนายบุญไชยก็พูดจนชาวบ้านทิ้งจอหนังกลางแปลงมาฟังผู้แทนปราศรัยหาเสียง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐมนตรีช่วยอำนาจเป็นอย่างมาก จึงสั่งเก็บทนายบุญไชยทันที แต่ทนายบุญไชยก็รอดมาได้เพราะมีชาวบ้านคอยช่วยเหลือ แต่แล้วในคืนก่อนวันเลือกตั้ง ทนายบุญไชยก็ถูกลอบยิงเสียชีวิตจนได้ ทำเอาคนดูซึมไปทั้งโรง แต่ชาวบ้านที่รู้ว่า ทนายบุญไชยตายแล้ว ก็ยังเลือกทนายบุญไชยอีก โดยบอกว่า ก็คนเป็นๆ มันไม่น่าเลือกนี่หวา ก็เลยต้องเลือกคนตาย บุญไชยจึงชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น แม้เขาจะได้เป็นแค่ผู้แทนนอกสภาก็ตาม